วันนี้อยากลองหาโดนเมนเนมแปลกๆฟรีๆเอามาใช้ดูบ้างก็ไปเจอของฟรีอย่างที่ใจปรารถนาเข้า เลยนำมาเล่าสู่กันฟังสำหรับใครที่ชอบของฟรี และไม่อยากเสียตังค์ โดนเมนที่ว่านี้ลงท้ายด้วย .co.cc ฟรีครับ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
ก่อนอื่น ต้องสมัครเป็นสมาชิกเค้าก่อน คลิ๊กที่นี้เลย
เมื่อสมัครเป็นสมาชิกเรียบร้อยกันแล้ว จะมีช่องให้กรอกชื่อโดเมน เพื่อนๆก็ลองกรอกชื่อโดนเมนที่อยากได้ลงไป แล้วกด ปุ่ม ตรวจสอบความพร้อมการใช้งาน หากโดเมนไหนมีการใช้งาน ระบบก็จะบอกเราว่า โดเมนนี้มีการลงทะเบียนแล้ว เราก็ลองหาชื่อใหม่ที่ยังว่าง หากชื่อโดเมนไหนยังไม่มีคนลงทะเบียนระบบก็จะขึ้นว่า
http://www.xxxxx.co.cc/ สามารถใช้ได้
การลงทะเบียนโดเมนหนึ่งปีราคา $0
การควบคุม DNS และการจัดการโดเมนแบบเต็ม
ก็คลิกที่ปุ่ม เข้าสู่การลงทะเบียน
จัดการป้อนข้อมูลเสร็จสรรพ ก็จะมีข้อความขึ้นว่า Please set up the domain in 48 hours.If not, we will cancel the registration.
แล้วให้เราตั้งค่า เมื่อได้โดเมนมาแล้วก็นำโดเมนนี้ ไป add on ที่โฮสต์ของเพื่อนๆเพื่อใช้งานได้เลย
การทำเว็บไซต์ ทำเว็บ เริ่มต้นทำเว็บไซต์ ด้วยเว็บไซต์สำเร็จรูป ทำเว็บไซต์ด้วย Dremweaver และ joomla
วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553
การใส่เพลงลงในเว็บไซต์ของเรา
การใส่เพลงลงในเว็บ
หลายคนมีเว็บไซต์แล้วก็อยากให้มีเสียงดนตรีประกอบไปด้วยสร้างความน่าสนใจไปอีกแบบให้กับเว็บไซต์ของเรา ก็เป็นวิธีที่ไม่ยากเลย เพื่อนๆเปิดไฟล์ index.html เว็บไซต์ของเพื่อนๆขึ้นมา จากนั้นนำโค๊ข้างล่างนี้ไปใส่ ระหว่าง < body>......< / body>
ข้อแนะนำ จากโค๊ดด้านบน เพื่อนๆควรสร้างโฟลเดอร์มาหนึ่งโฟล์เดอร์เพื่อไว้ใช้เก็บเพลง แล้วนำเพลงไปเก็บไว้ เมื่อมีการเรียกใช้ เพลงจะอยู่ในโฟลเดอร์ชื่อ song แล้วตามด้วยชื่อเพลง.wmaของเพื่อนๆ ข้อแนะนำอีกอย่างนึงหากไฟล์เพลงเป็นเพลง mp3 ก็ควรเปลี่ยนเป็น wma เพื่อให้ขนาดไฟล์นั้นมีขนาดที่เล็กลง เพราะหากเราใส่ไฟล์เพลงที่มีขนาดใหญ่เข้าไป กว่าเพลงจะเล่นได้ก็คงปิดเว็บไซต์เราไปแล้ว จริงมั้ย อดโชว์ของดีกันพอดี
วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553
เรื่องของ Session และ Cookie
เรื่องของ session
Session เป็นคุณสมบัติของ PHP ตั้งแต่เวอร์ชั่น 4.0 ขึ้นไปที่ช่วยในการติดตามและตรวจสอบสถานะต่างๆ ของผู้ใช้ โดยเราจะต้องสร้างตัวแปร session เพื่อเก็บค่าต่าง ๆ ที่ต้องการไว้ ซึ่งความคงอยู่ของตัวแปร session นี้จะขึ้นกับวินโดว์ของเว็บบราวเซอร์ ไม่ขึ้นกับไฟล์ PHP ที่สร้างตัวแปรนั้น กล่าวคือ หลังจากตัวแปร session ถูกสร้างขึ้นมาโดยไฟล์ PHP ไฟล์หนึ่งแล้ว เราจะสามารถอ้างอิงถึงตัวแปรนั้นได้จากไฟล์ PHP อื่นๆ ด้วย ตราบใดที่ผู้ใช้ยังคงเข้าถึงไฟล์ PHP ในเว็บไซท์ของเราโดยใช้วินโดว์เดิมอยู่
ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับ session
ฟังก์ชั่น session _ start( )
session _ start( ) เป็นฟังก์ชั่นที่สั่งให้เริ่มต้นใช้งาน (initialize) session
รูปแบบ: session _ start( )
ฟังก์ชั่น session _ register( )
session _ register( ) เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ลงทะเบียนตัวแปรไว้ใน session ปัจจุบัน (ทำให้ตัวแปรนั้นกลายเป็นตัวแปร session) โดยสามารถลงทะเบียนได้มากกว่า 1 ตัวแปรพร้อมกัน การลงทะเบียนตัวแปรใดๆ ให้กลายเป็นตัวแปร session นั้น ก็เพื่อกำหนดให้ PHP เก็บรักษาค่าของตัวแปรนั้นไว้ ภายหลังจากที่ไฟล์ PHP นั้นสิ้นสุดการทำงานในเพจใดเพจหนึ่งไปแล้ว
ขณะที่เรียกฟังก์ชั่น session _ register( ) นี้ ถ้าหาก session ยังไม่เริ่มต้น (เราไม่ได้เรียกฟังก์ชั่น session _ start( ) ก่อน) PHP ก็จะเริ่มต้น session ให้เองโดยปริยาย
รูปแบบ: session _ register(ชื่อตัวแปร [, ชื่อตัวแปร ... ])
สำหรับตัวอย่างต่อไปนี้เราจะใช้ไฟล์ session _ register1.php สร้างตัวแปรชื่อ $myname ขึ้นมา ก่อนที่จะลงทะเบียนให้เป็นตัวแปร session จากนั้นในไฟล์ session _ register2.php เราจะสั่งให้แสดงค่าของตัวแปร $myname ออกมา
session _ register1.php
< ? php
session _ start(); //เรียกฟังก์ชั่น session_start() เพื่อเริ่มใช้งาน session$myname = "สุวิช สกิดตลิ่ง";
session _ register(" myname ");
?
>
นี่คือไฟล์ session _ register1.php
< br >< br >
< a href =" session _ register2.php">คลิกตรงนี้เพื่อเปิดไฟล์ session _ register2.php< /a >
session _ register2.php
< ? php
session _ start( ); //เรียกฟังก์ชั่น session _ start() เพื่อเริ่มใช้งาน session
?
>
นี่คือไฟล์ session _ register2.php< b r>< b r>
< ? php echo "ค่าของตัวแปร SESSION ของ myname คือ " . $ _ SESSION['myname']; ? >
ฟังก์ชั่น session_unregister()
session_unregister() เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ยกเลิกการลงทะเบียนตัวแปร session หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ บอกให้ PHP ลืมตัวแปรนั้นไปเสีย
รูปแบบ: session_unregister(ชื่อตัวแปร)
ฟังก์ชั่น session_destroy()
session_destroy() เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ทำลายข้อมูลทั้งหมดของ session ปัจจุบัน
รูปแบบ: session_destroy()
ตัวอย่างการใช้งานตัวแปร Session
ตัวอย่างต่อไปนี้จะคล้ายคลึงกับตัวอย่างก่อนหน้านี้ แต่เราจะไฟล์ทั้งสิ้นจำนวน 3 ไฟล์ คือ
• ไฟล์ session_file1.php เป็นแบบฟอร์มให้กรอกชื่อผู้ใช้ โดยมีช่องรับข้อความชื่อ username เป็นตัวรับค่า
• ไฟล์ session_file2.php ทำหน้าที่ลงทะเบียนตัวแปร $username ไว้ใน session ปัจจุบัน พร้อมทั้งแสดงค่าของตัวแปรออกมา ตัวแปร $username นี้เป็นตัวแปรแบบโกลบอล (global variable) ที่ PHP สร้างขึ้นมาให้ โดย PHP จะนำค่าที่ได้รับจากช่องรับข้อความชื่อ username ในไฟล์ session_file1.php มากำหนดให้กับตัวแปรนี้ (เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง PHP กับแท็ก < form > ของ HTML ไม่เกี่ยวกับ session)
• ไฟล์ session_file3.php จะแสดงค่าของตัวแปร $username ออกมา เพื่อเป็นการยืนยันว่าตัวแปร $username ยังคงมีตัวตนอยู่และเก็บรักษาค่าเดิมไว้ได้
session_file1.php
< ? php
session_start(); //เรียกฟังก์ชั่น session_start() เพื่อเริ่มใช้งาน session
session_unregister("username");
? >
< form action ="session_file2.php">
กรุณาป้อนชื่อผู้ใช้ (username) แล้วคลิกปุ่มoK < br >
< input type="text" name="username" >
< input type="submit" value=" OK " >
< / form>
session_file2.php
< ? php
session_start(); //เรียกฟังก์ชั่น session_start() เพื่อเริ่มใช้งาน session
$username = $_POST['usernae'];
msession_register("username");
? >
ชื่อผู้ใชี่คุณป้อนมาให้คือ
< ? php
echo $_SESSION['username'] ;
? >
< br >< a href="session_file3.php">คลิกตรงนี้เพื่อไปยังไฟล์ session_file3.php
session_file3.php
< ? php
session_start(); //เรียกฟังก์ชั่น session_start() เพื่อเริ่มใช้งาน session
echo "ชื่อผู้ใช้ของคุณยังคงเป็น " . $_SESSION['username'] ;
? >
< br >< a href="session_file1.php">คลิกตรงนี้เพื่อไปยังไฟล์ session_file1.php< / a>
การติดตามและตรวจสอบผู้ใช้ด้วย Cookie
Cookie หมายถึง ข้อมูลที่เราส่งไปเก็บไว้ในเครื่องของผู้ใช้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามผู้ใช้แต่ละคน โดยหลังจากที่เราส่ง cookie ไปยังเครื่องของผู้ใช้แล้วถ้าหาก cookie ยังไม่หมดอายุ (expire) เมื่อผู้ใช้เรียกดูไฟล์ PHP อื่น ๆ ในไดเร็คทอรีเดียวกับไฟล์ PHP ที่สร้าง cookie ขึ้นมา บราวเซอร์ก็จะส่ง cookie นั้นมายังเซิร์ฟเวอร์ ซึ่ง PHP จะนำ cookie มากำหนดเป็นตัวแปรให้เราสามารถตรวจสอบค่าได้ต่อไป
ฟังก์ชั่นที่ใช้ส่ง cookie ไปเก็บไว้ในเครื่องของผู้ใช้ทิ้งไป ให้เรียกฟังก์ชั่น setcookie() โดยระบุชื่อ cookie นั้น แต่ไม่ต้องระบุค่าและเวลาหมดอายุ เช่น ถ้าต้องการลบ cookie ชื่อ TestCookie ก็ให้ใช้บรรทัดคำสั่งต่อไปนี้
setcookie (“ TestCookie ”) ;
cookie_create.php
< ? php
//กำหนดให้ cookie หมดอาุหลังจากถูกสร้างแล้วเป็นเวลา 60 วินาที (1 นาที)
$c_name = "TestCookie";
$c_val = "123";
setcookie( $c_name, $c_val, time() + 60 );
echo "cookie ชื่อ $c_name ที่มีค่า $c_val ได้ถูกส่งไปยังเว็บบราวเซอร์แล้ว";
? >
< a href = "cookie_test.php">ตรวจสอบค่าของ cookie< /a >< br >
เมื่อเรียกใช้ไฟล์ cookie_create.php และคลิกที่ลิงค์ “ตรวจสอบค่าของ cookie” แล้ว cookie ชื่อ TestCookie ที่เราส่งไปยังบราวเซอร์ก็จะถูกแสดงค่าออกมา
ให้รีเฟรชเว็บเพจเป็นระยะๆ โดยการกดคีย์ F5 หลังจากนั้นประมาณ 1 นาทีก็จะปรากฏข้อความดังรูปขึ้นมาแทน ซึ่งบอกให้รู้ว่าขณะนี้ cookie ชื่อ TestCookie ได้หมดอายุแล้ว
เนื่องจาก cookie ที่เว็บเซิร์ฟเวอร์กับเว็บบราวเซอร์รับส่งกันนั้น เป็นข้อมูลในส่วนเฮดเดอร์ของโปรโตคอล HTTP ดังนั้นถ้าเราเรียกใช้ฟังก์ชั่น setcookie() ตามหลังฟังก์ชั่นอื่น ๆ ของ PHP ที่ใช้ส่งข้อมูลไปยังบราวเซอร์ ก็จะเกิดความผิดพลาดขึ้น ดังตัวอย่าง
cookie_error.php
< ? php
echo "ทดสอบ";
setcookie( " Test", "456", time() + 60);
? >
ซึ่งบางครั้งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเขียนโค้ดในลักษณะนี้ได้ ด้วยเหตุนี้ PHP จึงจัดเตรียมฟังก์ชั่นที่ใช้ทำ output buffering ไว้ เพื่อให้เรานำข้อมูลไปพักไว้ในหน่วยความจำชั่วคราว หรือบัฟเฟอร์ (buffer) ก่อน แล้วค่อยส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยังบราวเซอร์ที่เดียวในตอนท้าย
ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับ Output Buffering
ฟังก์ชั่นสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับการทำ output buffering มีดังนี้
ฟังก์ชั่น ob_start()
เป็นฟังก์ชั่นที่เปิดการใช้งาน output buffering และสั่งให้มีการจองบัฟเฟอร์ไว้ โดยปกติเราจะเรียกฟังก์ชั่นนี้ที่บรรทัดแรกของไฟล์
ฟังก์ชั่น ob_end_flush()
เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ส่งข้อมูลจากบัฟเฟอร์ไปยังบราวเซอร์ และปิดการใช้งาน output buffering โดยปกติเราเรียกฟังก์ชั่นนี้ที่
บรรทัดสุดท้ายของไฟล์
ob_test.php
< ? php
ob_start();
echo "ทดสอบ
"; //ลองใช้คำสั่ง echo ก่อนเรียก setcookie()
setcookie("Test", "456", time() + 60);
echo "ส่ง cookieชื่อ Test ไปยังเว็บบราวเซอร์แล้ว";
ob_end_flush();
? >
Session เป็นคุณสมบัติของ PHP ตั้งแต่เวอร์ชั่น 4.0 ขึ้นไปที่ช่วยในการติดตามและตรวจสอบสถานะต่างๆ ของผู้ใช้ โดยเราจะต้องสร้างตัวแปร session เพื่อเก็บค่าต่าง ๆ ที่ต้องการไว้ ซึ่งความคงอยู่ของตัวแปร session นี้จะขึ้นกับวินโดว์ของเว็บบราวเซอร์ ไม่ขึ้นกับไฟล์ PHP ที่สร้างตัวแปรนั้น กล่าวคือ หลังจากตัวแปร session ถูกสร้างขึ้นมาโดยไฟล์ PHP ไฟล์หนึ่งแล้ว เราจะสามารถอ้างอิงถึงตัวแปรนั้นได้จากไฟล์ PHP อื่นๆ ด้วย ตราบใดที่ผู้ใช้ยังคงเข้าถึงไฟล์ PHP ในเว็บไซท์ของเราโดยใช้วินโดว์เดิมอยู่
ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับ session
ฟังก์ชั่น session _ start( )
session _ start( ) เป็นฟังก์ชั่นที่สั่งให้เริ่มต้นใช้งาน (initialize) session
รูปแบบ: session _ start( )
ฟังก์ชั่น session _ register( )
session _ register( ) เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ลงทะเบียนตัวแปรไว้ใน session ปัจจุบัน (ทำให้ตัวแปรนั้นกลายเป็นตัวแปร session) โดยสามารถลงทะเบียนได้มากกว่า 1 ตัวแปรพร้อมกัน การลงทะเบียนตัวแปรใดๆ ให้กลายเป็นตัวแปร session นั้น ก็เพื่อกำหนดให้ PHP เก็บรักษาค่าของตัวแปรนั้นไว้ ภายหลังจากที่ไฟล์ PHP นั้นสิ้นสุดการทำงานในเพจใดเพจหนึ่งไปแล้ว
ขณะที่เรียกฟังก์ชั่น session _ register( ) นี้ ถ้าหาก session ยังไม่เริ่มต้น (เราไม่ได้เรียกฟังก์ชั่น session _ start( ) ก่อน) PHP ก็จะเริ่มต้น session ให้เองโดยปริยาย
รูปแบบ: session _ register(ชื่อตัวแปร [, ชื่อตัวแปร ... ])
สำหรับตัวอย่างต่อไปนี้เราจะใช้ไฟล์ session _ register1.php สร้างตัวแปรชื่อ $myname ขึ้นมา ก่อนที่จะลงทะเบียนให้เป็นตัวแปร session จากนั้นในไฟล์ session _ register2.php เราจะสั่งให้แสดงค่าของตัวแปร $myname ออกมา
session _ register1.php
< ? php
session _ start(); //เรียกฟังก์ชั่น session_start() เพื่อเริ่มใช้งาน session$myname = "สุวิช สกิดตลิ่ง";
session _ register(" myname ");
?
>
นี่คือไฟล์ session _ register1.php
< br >< br >
< a href =" session _ register2.php">คลิกตรงนี้เพื่อเปิดไฟล์ session _ register2.php< /a >
session _ register2.php
< ? php
session _ start( ); //เรียกฟังก์ชั่น session _ start() เพื่อเริ่มใช้งาน session
?
>
นี่คือไฟล์ session _ register2.php< b r>< b r>
< ? php echo "ค่าของตัวแปร SESSION ของ myname คือ " . $ _ SESSION['myname']; ? >
ฟังก์ชั่น session_unregister()
session_unregister() เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ยกเลิกการลงทะเบียนตัวแปร session หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ บอกให้ PHP ลืมตัวแปรนั้นไปเสีย
รูปแบบ: session_unregister(ชื่อตัวแปร)
ฟังก์ชั่น session_destroy()
session_destroy() เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ทำลายข้อมูลทั้งหมดของ session ปัจจุบัน
รูปแบบ: session_destroy()
ตัวอย่างการใช้งานตัวแปร Session
ตัวอย่างต่อไปนี้จะคล้ายคลึงกับตัวอย่างก่อนหน้านี้ แต่เราจะไฟล์ทั้งสิ้นจำนวน 3 ไฟล์ คือ
• ไฟล์ session_file1.php เป็นแบบฟอร์มให้กรอกชื่อผู้ใช้ โดยมีช่องรับข้อความชื่อ username เป็นตัวรับค่า
• ไฟล์ session_file2.php ทำหน้าที่ลงทะเบียนตัวแปร $username ไว้ใน session ปัจจุบัน พร้อมทั้งแสดงค่าของตัวแปรออกมา ตัวแปร $username นี้เป็นตัวแปรแบบโกลบอล (global variable) ที่ PHP สร้างขึ้นมาให้ โดย PHP จะนำค่าที่ได้รับจากช่องรับข้อความชื่อ username ในไฟล์ session_file1.php มากำหนดให้กับตัวแปรนี้ (เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง PHP กับแท็ก < form > ของ HTML ไม่เกี่ยวกับ session)
• ไฟล์ session_file3.php จะแสดงค่าของตัวแปร $username ออกมา เพื่อเป็นการยืนยันว่าตัวแปร $username ยังคงมีตัวตนอยู่และเก็บรักษาค่าเดิมไว้ได้
session_file1.php
< ? php
session_start(); //เรียกฟังก์ชั่น session_start() เพื่อเริ่มใช้งาน session
session_unregister("username");
? >
< form action ="session_file2.php">
กรุณาป้อนชื่อผู้ใช้ (username) แล้วคลิกปุ่มoK < br >
< input type="text" name="username" >
< input type="submit" value=" OK " >
< / form>
session_file2.php
< ? php
session_start(); //เรียกฟังก์ชั่น session_start() เพื่อเริ่มใช้งาน session
$username = $_POST['usernae'];
msession_register("username");
? >
ชื่อผู้ใชี่คุณป้อนมาให้คือ
< ? php
echo $_SESSION['username'] ;
? >
< br >< a href="session_file3.php">คลิกตรงนี้เพื่อไปยังไฟล์ session_file3.php
session_file3.php
< ? php
session_start(); //เรียกฟังก์ชั่น session_start() เพื่อเริ่มใช้งาน session
echo "ชื่อผู้ใช้ของคุณยังคงเป็น " . $_SESSION['username'] ;
? >
< br >< a href="session_file1.php">คลิกตรงนี้เพื่อไปยังไฟล์ session_file1.php< / a>
การติดตามและตรวจสอบผู้ใช้ด้วย Cookie
Cookie หมายถึง ข้อมูลที่เราส่งไปเก็บไว้ในเครื่องของผู้ใช้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามผู้ใช้แต่ละคน โดยหลังจากที่เราส่ง cookie ไปยังเครื่องของผู้ใช้แล้วถ้าหาก cookie ยังไม่หมดอายุ (expire) เมื่อผู้ใช้เรียกดูไฟล์ PHP อื่น ๆ ในไดเร็คทอรีเดียวกับไฟล์ PHP ที่สร้าง cookie ขึ้นมา บราวเซอร์ก็จะส่ง cookie นั้นมายังเซิร์ฟเวอร์ ซึ่ง PHP จะนำ cookie มากำหนดเป็นตัวแปรให้เราสามารถตรวจสอบค่าได้ต่อไป
ฟังก์ชั่นที่ใช้ส่ง cookie ไปเก็บไว้ในเครื่องของผู้ใช้ทิ้งไป ให้เรียกฟังก์ชั่น setcookie() โดยระบุชื่อ cookie นั้น แต่ไม่ต้องระบุค่าและเวลาหมดอายุ เช่น ถ้าต้องการลบ cookie ชื่อ TestCookie ก็ให้ใช้บรรทัดคำสั่งต่อไปนี้
setcookie (“ TestCookie ”) ;
cookie_create.php
< ? php
//กำหนดให้ cookie หมดอาุหลังจากถูกสร้างแล้วเป็นเวลา 60 วินาที (1 นาที)
$c_name = "TestCookie";
$c_val = "123";
setcookie( $c_name, $c_val, time() + 60 );
echo "cookie ชื่อ $c_name ที่มีค่า $c_val ได้ถูกส่งไปยังเว็บบราวเซอร์แล้ว";
? >
< a href = "cookie_test.php">ตรวจสอบค่าของ cookie< /a >< br >
เมื่อเรียกใช้ไฟล์ cookie_create.php และคลิกที่ลิงค์ “ตรวจสอบค่าของ cookie” แล้ว cookie ชื่อ TestCookie ที่เราส่งไปยังบราวเซอร์ก็จะถูกแสดงค่าออกมา
ให้รีเฟรชเว็บเพจเป็นระยะๆ โดยการกดคีย์ F5 หลังจากนั้นประมาณ 1 นาทีก็จะปรากฏข้อความดังรูปขึ้นมาแทน ซึ่งบอกให้รู้ว่าขณะนี้ cookie ชื่อ TestCookie ได้หมดอายุแล้ว
เนื่องจาก cookie ที่เว็บเซิร์ฟเวอร์กับเว็บบราวเซอร์รับส่งกันนั้น เป็นข้อมูลในส่วนเฮดเดอร์ของโปรโตคอล HTTP ดังนั้นถ้าเราเรียกใช้ฟังก์ชั่น setcookie() ตามหลังฟังก์ชั่นอื่น ๆ ของ PHP ที่ใช้ส่งข้อมูลไปยังบราวเซอร์ ก็จะเกิดความผิดพลาดขึ้น ดังตัวอย่าง
cookie_error.php
< ? php
echo "ทดสอบ";
setcookie( " Test", "456", time() + 60);
? >
ซึ่งบางครั้งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเขียนโค้ดในลักษณะนี้ได้ ด้วยเหตุนี้ PHP จึงจัดเตรียมฟังก์ชั่นที่ใช้ทำ output buffering ไว้ เพื่อให้เรานำข้อมูลไปพักไว้ในหน่วยความจำชั่วคราว หรือบัฟเฟอร์ (buffer) ก่อน แล้วค่อยส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยังบราวเซอร์ที่เดียวในตอนท้าย
ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับ Output Buffering
ฟังก์ชั่นสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับการทำ output buffering มีดังนี้
ฟังก์ชั่น ob_start()
เป็นฟังก์ชั่นที่เปิดการใช้งาน output buffering และสั่งให้มีการจองบัฟเฟอร์ไว้ โดยปกติเราจะเรียกฟังก์ชั่นนี้ที่บรรทัดแรกของไฟล์
ฟังก์ชั่น ob_end_flush()
เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ส่งข้อมูลจากบัฟเฟอร์ไปยังบราวเซอร์ และปิดการใช้งาน output buffering โดยปกติเราเรียกฟังก์ชั่นนี้ที่
บรรทัดสุดท้ายของไฟล์
ob_test.php
< ? php
ob_start();
echo "ทดสอบ
"; //ลองใช้คำสั่ง echo ก่อนเรียก setcookie()
setcookie("Test", "456", time() + 60);
echo "ส่ง cookieชื่อ Test ไปยังเว็บบราวเซอร์แล้ว";
ob_end_flush();
? >
วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553
การสร้างเฟรมเซตในเว็บเพจ
การสร้างเฟรมเซต
เฟรม คือ ลักษณะของการแบ่งพื้นที่หน้าต่างหลัก ของบราวเซอร์ออกเป็นส่วนย่อย ๆ เพื่อใช้สำหรับแสดงเว็บเพจให้แต่ละส่วนแยกจากกันอย่างอิสระ วิธีการแบ่งเฟรม ไปที่ แถบ Frames คลิกเลือกรูปแบบเฟรมตามที่ได้ออกแบบ
กำหนดรายละเอียดหน้าต่าง Properties
Borders กำหนดให้แสดง (Yes) / ไม่แสดง (No) ขอบล้อมเฟรม (Default คือ Yes)
Border Width กำหนดความหนาของเฟรม ถ้าไม่ต้องการแสดงขอบเฟรม กำหนดค่านี้เป็น 0
Border Color กำหนดสีของขอบเฟรม
Column (or Row) and Units กำหนดขนาดของคอลัมน์ หรือความสูงของเฟรม โดยให้เราระบุหน่วยที่ใช้ในช่อง Units
Pixels หน่วย pixel แม่นยำที่สุด ในการกำหนดขนาด
Percent หน่วยเปอร์เซ็นต์กับเฟรมอื่นในหน้าต่าง
Relative หน่วยเปอร์เซ็นต์กับขนาดหน้าต่างบราวเซอร์
รายละเอียดแถบ Properties ของหน้าเว็บในเฟรมย่อย แถบ ของ Panel Group ด้านขวามือของโปรแกรมจะมี เครื่องมือ Advanced Layout ? คลิกเลือกแถบเฟรม ? คลิกส่วนใดส่วนหนึ่งของเฟรม
ปรากฏรายละเอียด หน้าต่าง Properties ของหน้าเว็บในเฟรมย่อย
Frame Name
ตั้งชื่อที่ใช้เรียกเฟรมย่อย ซึ่งต้องอ้างถึงชื่อเฟรม เมื่อมีการเชื่อมโยงกับเฟรมให้ใช้ตัวอักขระเล็กในการตั้งชื่อ
Src
ให้กำหนดชื่อและตำแหน่งเก็บไฟล์เว็บเพจที่จะถูกนำมาใช้ในเฟรม
Borders
กำหนดให้แสดง (Yes) / ไม่แสดง (No) ขอบล้อมเฟรมย่อย (Default คือ Yes)
Scroll
กำหนดให้แสดง (Yes) / ไม่แสดง (No) แถบเลื่อน (Scroll bar) ในเฟรมย่อยAutoให้แสดงแถบเลื่อนเฉพาะ เมื่อมีข้อมูลเกินกว่าที่จะแสดงได้บนหน้าจอ (Default คือ Auto)
No Resize
สั่งให้แสดงขอบเฟรมย่อย หากไม่ต้องการให้มีการใช้เมาส ์ปรับขนาดเฟรมให้เช็คถูกหน้าข้อความนี้
Border Color
กำหนดสีขอบเฟรม
Margin Width Margin Height
กำหนดระยะห่างระหว่างหน้าเว็บในเฟรมย่อยกับขอบเฟรม โดย Margin Width จะวัดจากด้านซ้ายของเฟรม Margin Height จะวัดจากด้านบนของเฟรม
การแทรกเว็บเพจลงในเฟรม
1. เปิดหน้าต่างเฟรมโดยเลือกคำสั่ง Window -->Others --> Frames หรือ กด Shift + F2
2. Click เลือกส่วนของเฟรมที่ต้องการจะแทรกเว็บเพจ
3. Click ที่รูปโฟล์เดอร์ เพื่อเลือกไฟล์เว็บเพจที่ต้องการแทรก
4. เลือกไฟล์ที่ต้องการแทรก ปรากฏหน้าเว็บเพจในเฟรมที่ถูกเลือกไว้
การบันทึกเฟรมย่อย
1. เลือกคำสั่ง File>Save All หรือกดคีย์
2. โปรแกรมจะถามให้บันทึกหน้าต่อไป ซึ่งจะปรากฏเส้นประ รอบ ๆ เฟรมย่อย โดยจะบันทึกจากด้าน ขวาล่าง? ซ้ายล่าง ? ขวาบน ? ซ้ายบน จนครบทุกเฟรมย่อม (ควรต้องชื่อให้เหมาะกับตำแหน่งเฟรม)
หากมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงทุกครั้งต้อง ใช้คำสั่งบันทึก File > Save All Frames
การเชื่อมโยงหน้าเว็บในเฟรม
1. ลากเมาส์เลือกข้อความที่ต้องกำหนดเป็น Link
2. Click mouse ปุ่ม เพื่อเลือกไฟล์ที่จะเชื่อมโยงด้วยในแถบ Properties
3. เลือกไฟล์ที่ต้องการเชื่อมโยงด้วยแล้ว Click ปุ่ม selete
4. กำหนดรูปแบบการแสดงผลบนเฟรมจากช่อง Target ในแถบ Properties ตัวอย่างเราเลือก Main Frame คือ เฟรมที่อยู่ด้านขาวมือ
• _blank เปิดเพจใหม่ขึ้นมา
• _parent แสดงเพจหน้าเดิม โดยจะลบเฟรมออก
• _self แสดงในเฟรมเดียวกันกับที่มีข้อความอยู่
• _top ขยายเต็มหน้าจอ
รูปแบบที่เพิ่มมาจากการเชื่อมโยงปกติ คือ
• mainFrame แสดงเพจใหม่ในหน้า mainframe
• topFrame แสดงเพจใหม่ในหน้า topFrame
• leftFrame แสดงเพจใหม่ในหน้า leftFrame
5. เซฟแล้วตรวจสอบผ่านบราวเซอร์ เมื่อ Click ที่ Link หน้าเว็บเพจที่สามารถเชื่อมโยงได้ จะถูกแสดงในส่วนเฟรมที่กำหนดไว้
วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553
การสร้าง ตารางใน Dream weaver
ตาราง (Table)
1. คลิกเมาส์ ตำแหน่งที่ต้องการวางตาราง
กำหนดรายละเอียดของตาราง คือ
Rows จำนวนแถวของตาราง
Columns จำนวนคอลัมน์ของตาราง
Width ความกว้างของตาราง กำหนดหน่วยได้ทั้งระบบ % และ Pixel
Border ความหนาของเส้นขอบรอบตาราง
Cell Padding ระยะห่างจากขอบข้างในของเซลล์เข้ามาในเซลล์ มีหน่วยเป็น pixel
Cell Spacing ความหนาของเส้นคั่นระหว่างเซลล์
การลบตาราง
1. คลิกเลือกตารางทั้งตาราง
2. กดปุ่ม Delete
การลบแถว, ลบคอลัมน์
1. คลิกเลือกแถวหรือคอลัมน์ที่ต้องการลบ
2. กดปุ่มขวาของเมาส์ ปรากฏเมนูลัด
3. เลือกคำสั่ง Delete Row หรือ Delete Column
การเพิ่มแถว
1. นำเมาส์ไปคลิกในเซลล์สุดท้ายของตาราง
2. กดปุ่ม Tab จะได้แถวใหม่ต่อจากแถวสุดท้ายของตารางโดยอัตโนมัติ
การแทรกแถว/คอลัมน์
1. คลิกเลือกแถวหรือคอลัมน์ที่ต้องการแทรก
2. กดปุ่มขวาของเมาส์ ปรากฏเมนูลัด
3. เลือกคำสั่ง Insert, Row หรือ Insert Column หรือ Insert Rows or Columns
การปรับแต่งอื่นๆคลิ๊กที่ properties
ตารางแข่งขันฟุตบอลโลก 2010
เอามาฝากสำหรับคอบอล ตารางบอลโลก2010 ใครที่ยังไม่มีโหลดได้เลยจ้าา ตารางบอลโลก
วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553
รวม เทคนิคการใช้ Photoshop
BG ลายน้ำกระเพื่อม
• เปิดไฟล์ภาพใหม่ กำหนดขนาดต้องการ โดยกำหนดโหมดภาพเป็น RGB
• ทำให้เป็นลายผสมแบบท้องฟ้าสีฟ้า ด้วยคำสั่ง Filter > Render > Clouds
• สร้าง Effect แบบน้ำกระเพื่อมด้วยคำสั่ง Filter > Distort > Ocean Ripple กำหนดค่าตามต้องการ แล้ว OK
การทำลิงค์ (Link) ในdreamweaver mx
การทำลิ้งค์มี 2 แบบ คือ 1 การทำลิงค์ไปยังเว็บไซต์อื่น วิธีการคือจะต้อง ระบุชื่อโดเมนที่เราจะลิ้งค์ไป เช่น ทำการลิงค์ไปที่ google ต้องระบุคือ http://www.google.com/ ถึง จะสามารถลิงค์ได้ ลิ้งค์แบบนี้เรียกว่า Absolute Link
2 การทำลิ้งค์ภายในเว็บไซต์ มีวีธีทำหลายวิธีสามารถเลือกทำได้ เรียกว่า Relative Link วิธีการทำลิงค์ให้กับเว็บไซต์
การทำลิ้งค์ข้อความ เปิดโปรแกรม dreamweaver ขึ้นมา จากนั้น ลองพิมพ์ข้อความที่ต้องการสร้างลิ้งค์ แล้วลากเม้าส์คลุมตัวอักษรไว้ มาที่แถบ Properties ด้านล่าง ที่คำว่า Link เพื่อนสามารถใส่ URL ที่เพื่อนต้องการให้สิ้งค์ไปได้เลย แต่หากเพื่อนๆต้องการ ทำลิ้งค์ภายในเว็บไซต์ เพื่อนๆต้องสร้างไฟล์ที่เป็นเป้าหมายที่ลิงค์ไป ไว้ก่อน จากนั้นคลิ๊กที่ปุ่มรูปโฟลเดอร์ ดังรูปตัวอย่างที่ลูกศรชี้
การทำลิงค์เมล์ (E-mail Link)
การทำลิงค์เมล์คือให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์สามารถติดต่อกับเจ้าของเว็บไซต์ผ่านอีเมล์ แต่พิเศษอยู่ที่ไม่
ต้องพิมพ์ที่อยู่ E-mail Address ของเจ้าของเว็บไซต์ เพียงพิมพ์ข้อความติชมเท่านั้น โดยหลังจากคลิกลิงค์เมล์
Browser จะเปิดโปรแกรมส่งเมล์ให้โดยอัตโนมัติ ส่วนมากถ้าเป็น IE จะเปิดโปรแกรม Microsoft Outlook ให้
วิธีลิงค์เมล์
• พิมพ์ข้อความที่ต้องการลิงค์ไปยัง E-mail เช่น Email หรือ คำว่า ”Contact me”
• จากนั้นให้ป้ายทับ E-mail Address และมาที่ Properties inspector ในช่อง Link ให้พิมพ์
E-mail Address ที่ต้องการทำลิงค์ เช่น mailto:youre-mail@hotmail.com
เลือก Object ที่ Email Link ภายในแท็บ Insert ดังรูป
จะปรากฎDialog Box ดังรูป
กำหนดค่าลงไป text ก็ใส่รายละเอียดลงไป E-mail ให้ใส่ที่อยู่ของเมล์ แล้วกด OKแล้ว SAVE
ทดสอบโดยการกด F12 เพื่อแสดงผล การทำลิ้งค์อื่นๆก็หลักการเดียวกันครับ หรือจะใช้รูปภาพมาเป็นลิ้งค์ก็ได้ครับ วิธีการทำคล้ายๆกัน
วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553
การทำลิ้งค์บางส่วนของภาพ หรือ การทำ Image Map
เมื่อเราทำภาพลงไปในเว็บไซต์ แล้วต้องการทำลิ้งบางส่วนของภาพนั้น ทำได้โดย การใช้ Image Map ยกตัวอย่างภาพทีมนักเตะสเปน ชุดลุยแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 และต้องการทำลิงค์แต่ละคนเพื่อให้ลิ้งไปยังประวัติของแต่ละคน ( ยกตัวอย่างนะ )
1 คลิกรูปสี่เหลี่ยม วงกลม หรือ หลายเหลี่ยมที่ ลูกศรสีแดงชี้ นำไปวางที่รูป เพื่อกำหนดขอบเขตของส่วงที่เป็นลิงค์ ปรับขนาดตามความพอใจ
2 พิมพ์ข้อความลงในช่อง Link ว่าต้องการทำลิงค์อะไร เช่น ลิงค์ไปยังเว็บไซต์ รูปภาพ อีเมล์
3กำหนด Target คือ เมื่อคลิกขอบเขตที่กำหนดเป็นลิงค์แล้ว จะปรากฏที่หน้าจอใด สิ่งมีอยู่ 4 แบบ คือ
_blank เปิดหน้าเว็บขึ้นมาใหม่ _parent จะอยู่หน้าหลักของเว็บกรณีที่ใช้เฟรมออกแบบ _self แทนที่
หน้าเว็บเดิมที่เปิดอยู่ _top จะอยู่ด้านบนของหน้าเว็บกรณีที่ใช้เฟรมออกแบบ เลือกแบบใดแบบหนึ่งก่อนก็ได้
4 Save แล้วกด F12 เพื่อแสดงผล ทดสอบโดยนำเม้าส์ไปวาง ตำแหน่งที่ทำลิ้งค์ไว้ ก็จะลิงค์ไปยังที่ที่เรากำหนด
เสร็จแล้วหละครับ.....
วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553
การสร้างปุ่มแฟลชจาก Dreamweaver
เพื่อนหลายคนที่ไม่มีความชำนาญในการใช้โปรแกรม Flash แต่อยาจะมี Flashเข้ามาตกแต่ง เว็บไซต์ของตัวเองบ้าง ทำไงดี ความสามารถของ Dreamweaver นั้น สามารถทำได้เหมือนกัน
เปิดโปรแกรม Dreamweaver ขึ้นมา แล้วไปที่ เมนู Insert > Media จะปรากฏเมนูดังนี้
สังเกตุ 3เมนูแรก นั้นแหละที่เราจะใช้งาน ปุ่มแรก ไว้สำหรับ เพื่อนๆที่มี ชิ้นงานไฟล์Flasn อยู่แล้วก็สามารถนำมา Import ได้ที่ปุ่มนี้เลย แต่ในส่วนที่เราจะพูดถึงวันนี้ก็คือ ปุ่มที่สอง Flash Button
พอคลิ๊กเข้าไปจะปรากฏหน้าจอดังนี้
ใส่ข้อความที่เพื่อนๆต้องการได้เลยครับ ปรับแต่งตามความต้องการ เช็คความเรียบร้อยให้ดีนะ เพราะ เมื่อกดปุ่ม OK เพื่อสร้างข้อความแฟลชแล้วจะไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องสร้างข้อความใหม่เท่านั้น
การเพิ่มช่องว่างเว้นวรรคใน Dreamweaver
การเพิ่มช่องว่าง เว้นวรรคระหว่างตัวอักษรนั้น หลายคนที่ใช้ Dreamweaver ใหม่ๆนั้นจะพบว่า พอกด space bar มันเว้นได้ แค่ช่องเดียวเท่านั้น ทำยังไงดี ให้เพื่อนๆ กด Control+Shift+Space bar พร้อมๆกันมันก็จะเว้นวรรคได้ตามใจของเพื่อนๆ มันคือคำสั่ง Non-Breaking Space นั้นเอง หรือจะเข้าไปที่แถบเมนู
Insert Bar ด้านบน แล้วเลือก Character จะปรากฏปุ่ม Non-Breaking Space ขึ้นมา
วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
การเปลี่ยน template joomla
ติดค้างมานานสำหรับเรื่องของการทำ joomla ว่าจะเขียน ตั้งหลายรอบแต่ก็ไม่ได้ฤกษ์งาม ยามดีซะที วันนี้เลยมาแนะนำ หลังจากที่เราติดตั้ง joomla เสร็จ จำไม่ได้ก็ย้อนกลับไปดู การติดตั้ง joomla เอานะครับ ก็เห็นหน้าตาของเว็บไซต์เราที่แสนจะธรรมดา ทำไงดีถ้าไม่อยากซ้ำกับคนอื่นเข้า ก็เปลี่ยนมันซะเลย การเปลี่ยน template เริ่มต้นโดยการ หา template จากในอินเตอร์เน็ต ฟรีๆเยอะเลยครับ หรือ หาจาก เว็บนี้ที่ผมแนะนำ Free template เยอะแยะมากมาย พอเลือกได้ซักหนึ่งอัน เปิดไปยังให้เพื่อน login ไปที่หน้า Back and ตามนี้นะ http://localhost/joomla/administrator/ จากนั้นก็ใส่รหัสของเพื่อนๆลงไป จากนั้นก็เลือก Extensions >>install/Uninstall
จากนั้นเพื่อนก็กดปุ่่ม Browse แล้วก็เลือก template ที่เพื่อนๆโหลดมา ที่เป็นไฟล์ Zip แล้วก็กด Upload file เลย
จากนั้นเมื่อ Upload เสร็จแล้ว ก็ให้เพื่อนๆไปที่ เมนู Extensions >>Template Manager ข้างบนอะ
ก็จะมาโผล่หน้าตามรูปข้างล่างนี้
มองหาชื่อ Template ของเพื่อนๆ ติ๊กช้องข้างหน้า ชื่อ แล้วกด Default ด้านขวามือ
บน จากนั้นก็ลองเรียก http://localhost/joomla ของเพื่อนๆดู หน้าตาของ Template ก็จะเปลี่ยนไป
เป็นไง ถ้าอยากได้ Template สวยๆก็หาโหลดมา ติดตั้งได้เรื่อยๆเลย แต่ถ้าใครอยากสร้าง Template เองไม่ซ้ำแบบใครละก็ วันหลังจะมาแนะนำเครื่องมือ การสร้าง Template ให้นะ วันนี้แค่นี้ก่อนน สวัดดี
แจก โค็ด และ สคริป ในการทำเว็บ
แจกๆๆๆ ไปเจอมา โหลดไปใช้กันตามใจชอบ อิอิ เห็นว่าจำเป็นสำหรับการทำเว็บไซต์ แต่เขียนโปรแกรมไม่เป็น หือ..
ทำ Gallery random ภาพ พร้อมวิธีใช้ ดาวน์โหลด (เครดิต http://www.codetukyang.com/php )
รวม java script ดาวน์โหลด
สคริปโปรโมทเว็บ ดาวน์โหลด
ทำเว็บบอร์ด phpBB Version 3.0.1 ภาษาไทย ดาวน์โหลด
ทำระบบสมาชิก ดาวน์โหลด (เครดิต http://www.funwhan.com )
shopping cart ทำระบบตระกร้า ดาวน์โหลด
ไปละ เดวถ้าเจออะไรดีๆก็จะเอามาฝากกันอีกนะครับ
ทำ Gallery random ภาพ พร้อมวิธีใช้ ดาวน์โหลด (เครดิต http://www.codetukyang.com/php )
รวม java script ดาวน์โหลด
สคริปโปรโมทเว็บ ดาวน์โหลด
ทำเว็บบอร์ด phpBB Version 3.0.1 ภาษาไทย ดาวน์โหลด
ทำระบบสมาชิก ดาวน์โหลด (เครดิต http://www.funwhan.com )
shopping cart ทำระบบตระกร้า ดาวน์โหลด
ไปละ เดวถ้าเจออะไรดีๆก็จะเอามาฝากกันอีกนะครับ
การทำรูปถ่ายให้เป็นรูปวาดลายเส้น
วันนี้มาแนะนำโปรแกรมเอาไว้ทำรูปภาพให้เป็นภาพวาดลายเส้นง่ายๆ แค่คลิ๊กเดียว เอาไว้สำหรับคนที่ อยากมี ลายเส้นแนวๆ ไว้ไปตกแต่งเว็บไซต์ โปรแกรมนี้มีชื่อว่า into cartoon
โหลดได้จาก ที่นี่ เลยจ้า วิธีใช้ก็ง่ายแสนง่ายติดตั้งแล้วเปิดโปรแกรมขึ้นมา เปิดรูปที่เราต้องการจะทำ
จากนั้นไปที่เมนู Cartoon >> เลือก into cartoon เพียงเท่านี้ รูปภาพของเราก็จะกลายมาเป็นรูปภาพลายเส้น ก็สวยไปอีกแนวนะครับ ดู ปู่โย แก่ไปเลย พี่ตอ ก็เท่ไปอีกแบบ อิอิ
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
ทำให้ Dreamweaver ใช้ภาษาไทยได้
ก่อนอื่น เพื่อนๆต้องติดตั้ง ฟอนต์ภาษาไทย Thai addon ก่อน ใครที่ยังไม่มี โหลดได้จาก ที่นี่ เมื่อเพื่อนๆโหลด thai addon มาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการแตกไฟล์ แล้วคลิ๊กติดตั้งเลย เมื่อทำการติดตั้งแล้ว ที่โปรแกรม Dreamweaver ให้เลือกคำสั่ง Edit > Preferences และเลือก Fonts เพื่อกำหนดภาษาและชุดตัวอักษร โดยในช่อง Font Settings ให้เลือก THAI Windows-874

ถ้ายังใช้งานภาษาไทยไม่ได้ ให้เพื่อนทำตามนี้เลย
1.เข้าไป set font ใหม่ โดยไปที่ menu >> edit >> preferences >> แล้วเลือกไปที่หมวด fonts >> ละก็ดูในส่วนของ font setting >> ให้เราเลือก Thai Windows-874 >> แล้วเลือก font ที่สามารถไช้ภาษาไทยได้ แล้วกด ok
(สำหรับ tis-620 ก็ให้ทำเหมือนกัน โดยให้เปลี่ยนจาก Thai Windows-874 เป็น Thai Tis-620)
2. menu >> modify >> page properties >> ตรง document encoding ให้เปลี่ยนเป็น Thai Windows-874 หรือ Thai Tis-620 ก็ได้ (ie ควรเป็น windows-874) ละก็ ok
3. ถ้าต้องการตั้งค่าเวลาสร้างเอกสารใหม่แล้วให้ encoding เป็น windows-874 หรือ tis-620 โดยอัตโนมัติ ให้ตั้งค่าตามนี้
ไปที่ menu >> edit >> preferences >> แล้วเลือกไปที่หมวด new document >> แล้วก็เลือก defauil encoding เป็น Thai Windows-874 หรือ Thai Tis-620 แล้วแต่จะใช้ครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)